ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ลองมาคุยกันเรื่องแบตเตอรี่นิดนึงนะคะ
แบตเตอรี่ที่ใช้กับไฟฉายพวกนี้ แบ่งออกเป็นหลักๆ ได้สองประเภท คือแบบไพรมารีเซล หรือแบบที่ไม่สามารถชาร์จได้ กับแบตรีชาร์จ อันนี้ทุกคนคงทราบกันดี
ส่วนแบตที่ให้ความสว่างสูงๆ คงหนีไม่พ้นแบตลิเธี่ยม ซึ่งแบบไพรมารี เช่นแบตCR123 จะมีโวลเตจที่ราว3.0 ซึ่งสูงกว่าแบตอัลคาไลน์ธรรมดาที่ 1.5 โวลต์ ซึ่งแรงดันสูงกว่า ก็ทำให้ประสิทธิภาพสูงกว่า......แต่ราคาสูงพอสมควร......
ก็เลยมีแบตลิเธี่ยมแบบรีชาร์จออกมา ซึ่งมีคึวามจุน้อยกว่าแบตแบบไพรมารีจริง แต่สามารถชาร์จซ้ำได้ รอบการชาร์จหลายร้อยครั้ง แต่หลายๆคน ที่ซื้อมาใช้ อาจจะไม่ประทับใจนัก(ทั่วไปมักเป็นก้อนสีฟ้าๆ) เนื่องจากมักจะพบว่ามันเสีย ไม่สามารถชาร์จซ้ำได้....
ซึ่ง เป็นเพราะโดยธรรมชาติของแบตพวกนี้ ถ้าใช้เพลินจนแรงดันต่ำกว่าจุดที่กำหนด ราว2.5-2.7 โวลต์ จะไม่สามารถนำไปชาร์จได้อีก หรือที่เรียกว่าเซลดายนั่นเอง....เป็นเรื่องปกติค่ะ
จึงได้มีการพัฒนาแบตลิเธี่ยม"แบบมีวงจร" หรือ โพรเท็คเซล ( Protected cell )ขึ้นมารองรับการใช้งานลักษณะนี้ และราคาจะสูงกว่าแบตรีชาร์จทั่วไป โดยวงจรจะมีหน้าที่ตัดตัวเองก่อนแรงดันจะลดลงถึงจุดอันตราย ป้องกันการลัดวงจรได้ หรือตัดการจ่ายกระแสเมื่ออุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนดได้ด้วย.......แต่ บางยี่ห้อ และบางผู้ผลิต คุณภาพวงจรและการผลิตอาจยังไม่ได้มาตราฐานนัก จึงอาจทำให้มีปัญหาได้เช่นกัน
การเลือกซื้อแบตประเภทนี้ จึงควรหาข้อมูล และศึกษาให้ดีก่อน รวมถึงดูความเข้ากันได้กับไฟฉายที่มีด้วย อาทิแรงดันไฟ หากไฟฉายระบุว่ารองรับแรงดันไฟเพียง3.0 โวลต์(อย่างโมดูลหลอดไส้ทั่วไป) ก็ไม่สามารถนำแบตพวกนี้ไปใช้ได้ หลอดขาดแน่นอน เนื่องจากเมื่อชาร์จเต็ม จะมีแรงดันเฉลี่ยอยู่ที่ 4.0โวลต์เลยทีเดียว.....และเนื่องจากมีวงจร ขนาดความกว้างและยาวอาจจะแตกต่างไปจากแบตปกติ ถ้าเป็นไฟฉายที่มีความฟิตของชิ้นส่วนสูงมาก เช่นชัวร์ไฟร์ ควรนำไฟฉายติดตัวไปเลือกซื้อแบตด้วยค่ะ
แต่โดยส่วนตัว อยากแนะนำให้ใช้แบตพวกนี้ เพราะว่าลงทุนสูงเพียงครั้งแรก คือโดยตัวแบต และที่ชาร์จเฉพาะแบตลิเธี่ยม(ซึ่งมีหลากหลายแบบ บางแบบสามารถปรับใช้ได้กับแบตลิเธี่ยมหลายขนาด) ราคาอาจจะค่อนข้างสูง อาทิแบตAW ขนาดR123 สองก้อน ราคาราวสี่ร้อย กับที่ชาร์จแบตลิเธี่ยมแบบปรับขนาดได้ อีกตัวละสี่ร้อยห้าสิบขึ้นไป รวมแล้วเป็นเงินร่วมพันทีเดียวในการลงทุนกับแบตเตอรี่ครั้งแรก.....
แต่ยี่ห้อดีๆ ที่ไว้ใจได้ จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และหากใช้บ่อยๆแล้ว จะคุ้มค่าเงินในระยะยาวค่ะ เทียบกับไพรมารีเซลที่คาต่อก้อน 70-100 บาทแล้ว ไม่นานก็คุ้มแล้วค่ะ.....ทั้งยังช่วยลดขยะให้โลกด้วย
ยกเว้นในไฟฉายบางประเภทนะคะ เพราะแบตลิเธี่ยมพวกนี้แรงดันสูงมาก อาทิเช่น การใช้ในไฟฉายไซส์เล็กมากๆ อย่างขนาดAAตัวเล็กๆแบบพวงกุญแจ หรือไฟฉายที่ไม่ได้ออกแบบให้มีการระบายความร้อนที่ดีพอ การเปิดยาวๆ จะทำให้ความร้อนขึ้นสูงเร็วกว่าแบตAA ปกติมาก อาจส่งผลเสียต่อวงจรและหลอดได้ค่ะ
ส่วนแบตแบบ NI-MH ก็สามารถนำมาใช้งานกับไฟฉายพวกนี้ได้อย่างดีโดยไม่มีปัญหา แต่ด้วยแรงดันที่ต่ำกว่า จึงทำให้ความสว่างได้ไม่สูงเท่าแบตลิเธี่ยม(ในไฟฉายตัวเดียวกัน แบตลิเธี่ยมจะทำให้ความสว่างสูงสุดมากขึ้นได้เกือบเท่าตัวค่ะ) แต่ก็สามารถใช้งานได้ยาวนาน เพราะในไฟฉายบางตัวที่ขนาดไม่ใหญ่ หากใช้แบตลิเธี่ยมที่มีแรงดันสูงแล้ว ที่ความสว่างสูงสุด(ในรุ่นที่รองรับนะคะ) จะทำให้ความร้อนขึ้นสูงได้เร็วมากค่ะ
ส่วนแพลทฟอร์มแบตที่ใช้ได้ดี ความสว่างสูงเทียบเท่าแบตลิเธี่ยม คือAAx2 ซึ่งในแพลทฟอร์มนี้จะไม่รองรับแบตลิเธี่ยม ใช้ได้แต่แบตอัลคาไลน์ และNI-MH เท่านั้น แต่ความสว่างไม่น้อยหน้ากันทีเดียว
ส่วนแบตความจุสูงแบบที่ใช้กับกล้องดิจิทัลทั้งหลาย ก็จะทำให้รันไทม์ หรือระยะเวลาการใช้งาน นานกว่าแบตอัลคาไลน์ธรรมดามากค่ะ โดยเฉพาะE2 ก้อนสีเงินๆ ฟ้าๆ ที่โหมดหรี่สุดๆ ที่สองลูเมนส์ของไนท์คอร์ D10 ซึ่งเป็นไฟฉายที่ใช้แบตAA ก้อนเดียว เปิดทิ้งไว้ได้ติดต่อกันถึงแปดวันเลยค่ะ :)
ใครมีความเห็นเพิ่มเติม ลองเอามาแชร์กันค่ะ
ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาชมค่า